วันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2561

กรณีศึกษา บทที่ 3.2



สมาชิกในกลุ่ม
นางสาวเสาวลักษณ์  มิ่งขวัญ           58127328095
นางสาวจินตปาตี พรมสวัสดิ์           58127328102
นางสาวธนาภรณ์  ผิรังคะเปาระ      58127328103
นางสาวสกาวเดือน  ไชยอาคม         58127328110
นางสาวอภิสรา  บุญมี                      58127328111
นายนนทกร จันทรพัฒนา                58127328112
นายสิทธิพร  แพรวกลาง                  58127328116

บทที่ 3.2 โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ
case study : Lego: Embracing Change by Combining BI with a Flexible Information System
1. อธิบายบทบาทของฐานข้อมูลในระบบสามชั้นของ SAP
=              ชุดธุรกิจของ SAP ใช้สถาปัตยกรรมของเซิร์ฟเวอร์ฝั่งไคลเอ็นต์ที่มีความยืดหยุ่นซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสถาปัตยกรรม SOA (Service-Oriented Architecture) ใหม่ที่มีอยู่ในเวอร์ชันล่าสุดของซอฟต์แวร์ ในส่วนแรกอินเทอร์เฟซไคลเอ็นต์ - อินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก (GUI) ชนิดเบราว์เซอร์ที่ทำงานบนแล็ปท็อปเดสก์ท็อปหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่จะส่งคำขอของผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์แอ็พพลิเคชัน เซิร์ฟเวอร์แอ็พพลิเคชันจะส่งคำขอประมวลผลไปยังระบบฐานข้อมูลรับและประมวลผลคำขอของลูกค้าไปยังระบบฐานข้อมูลชั้นที่สามซึ่งประกอบด้วยฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์อย่างน้อยหนึ่งฐาน บทบาทหลักของฐานข้อมูลเป็นระบบจัดเก็บข้อมูล ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ประกอบด้วยตารางที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ LEGO การดำเนินงานประจำวันห่วงโซ่อุปทานและพนักงานหลายพันคน การใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลของ SAP ทำให้ผู้ใช้สามารถสลับและจัดเรียงข้อมูลและดึงรายงานจากฐานข้อมูลได้ บทบาทของฐานข้อมูลจึงเป็นตัวสร้างรายงาน

2. อธิบายว่าทำไมสถาปัตยกรรมแบบกระจายจึงมีความยืดหยุ่น
=              ระบบสถาปัตยกรรมแบบกระจายคือระบบซอฟต์แวร์ซึ่งส่วนประกอบต่าง ๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่ายจะสื่อสารและประสานงานการกระทำของตนโดยการส่งข้อความ ส่วนประกอบโต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ข้อมูลอาจถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์หลายเครื่องตั้งอยู่ในตำแหน่งทางกายภาพเดียวกัน หรืออาจถูกกระจายผ่านเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกัน ฐานข้อมูลแบบกระจายสามารถอยู่บนเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายบนอินเทอร์เน็ตบนอินทราเน็ตขององค์กรหรือเครือข่ายเสริมหรือเครือข่ายอื่น ๆ ของ บริษัท เนื่องจากมีการจัดเก็บข้อมูลไว้ในคอมพิวเตอร์หลายเครื่องระบบฐานข้อมูลแบบกระจายจึงสามารถปรับปรุงสมรรถนะของผู้ใช้ปลายทางได้โดยการอนุญาตให้ทำธุรกรรมบนเครื่องจำนวนมากแทนที่จะถูก จำกัด ไว้ ผู้ใช้จากส่วนต่าง ๆ ของโลกอาจเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน ดังนั้นจึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในแง่ของความพร้อมให้กับผู้ใช้ พวกเขายังธนาคารในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องเป็นข้อมูลที่ตั้งอยู่ใกล้กับเว็บไซต์ของความต้องการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและระบบฐานข้อมูลตัวเองเป็นแบบขนานทำให้ภาระในฐานข้อมูลที่จะสมดุลระหว่างเซิร์ฟเวอร์ โหลดสูงหนึ่งโมดูลของฐานข้อมูลจะไม่ส่งผลกระทบต่อโมดูลอื่น ๆ ของฐานข้อมูลในฐานข้อมูลแบบกระจาย นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับจุดประสงค์ในการขยายฐานข้อมูลและความโปร่งใสเนื่องจากข้อมูลสามารถถูกตรวจสอบในไซต์ของคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเนื่องจากข้อมูลอาจเก็บไว้ภายในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีอิสระในท้องถิ่นหรือความเป็นอิสระของไซต์ซึ่งแผนกต่าง ๆ สามารถควบคุมข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาได้ (เช่นเดียวกับที่เป็นที่คุ้นเคย) มีความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและอาจเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงในการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีพลังของคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ระบบสามารถปรับเปลี่ยนเพิ่มและลบออกจากฐานข้อมูลแบบกระจายโดยไม่มีผลต่อโมดูล (ระบบ) อื่น ๆ

3. ระบุคุณลักษณะทางธุรกิจบางอย่างที่รวมอยู่ในชุดซอฟต์แวร์ทางธุรกิจของ SAP
=              การจัดการซัพพลายเชน (SCM) การตรวจสอบและวิเคราะห์ห่วงโซ่อุปทานตลอดจนการคาดการณ์การวางแผนและการเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าคงคลัง การจัดการวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (PLM) เปิดใช้งานผู้จัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการและระบบการพัฒนา การวางแผนทรัพยากรขององค์กร (ERP) รวมถึงการประยุกต์ใช้การจัดการทุนมนุษย์ (HCM) สำหรับการบริหารและพัฒนาบุคลากร
4. ข้อดีและข้อเสียหลักของการมีฐานข้อมูลหลายตัวในสถาปัตยกรรมแบบกระจายคืออะไร? จงอธิบาย
ข้อดี
                1.ฐานข้อมูลหลายแห่งประกอบด้วยตารางที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การดำเนินงานประจำวันห่วงโซ่อุปทานและพันของพนักงาน
                2.ผู้จัดการสามารถใช้เครื่องมือสืบค้นข้อมูลของ SAP เพื่อขอรับรายงานจากฐานข้อมูลได้เนื่องจากไม่ต้องใช้ทักษะทางเทคนิคใด ๆ
                3.สถาปัตยกรรมแบบกระจายช่วยให้ผู้มีอำนาจสามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลได้โดยตรงจากตำแหน่งต่าง ๆ ของ บริษัท เช่นในยุโรปอเมริกาเหนือและเอเชีย
ข้อเสีย
                1.ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการทำธุรกรรมเหล่านี้อาจเป็นโทษด้านประสิทธิภาพเมื่อจำนวนข้อมูลทั้งหมดในเครือข่ายมีขนาดเล็ก ผู้ใช้ยังเห็นประสิทธิภาพที่ช้าลงเมื่อเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ที่ไม่ใช่ท้องถิ่น
                2.เพิ่มการใช้พื้นที่ฐานข้อมูล ทุก ๆ ตารางต้องอยู่ในฐานข้อมูล เมื่อจำนวนของตารางมีขนาดใหญ่มากจำนวนพื้นที่ที่ใช้วิธีนี้อาจมีนัยสำคัญ ผู้ดูแลระบบต้องใช้พารามิเตอร์การจัดเก็บฐานข้อมูลในตารางขนาดและลดการใช้เนื้อที่ฐานข้อมูล
                3.ผู้ดูแลระบบต้องเก็บข้อมูลของฐานข้อมูลทั้งหมดให้ตรงกันและตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่ายได้รับการกำหนดค่าเพื่อใช้ประโยชน์จากสภาวะแวดล้อมแบบกระจายฐานข้อมูลอย่างเหมาะสมในแง่ของความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพการทำงาน แม้ว่าการสำรองฐานข้อมูลมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในระบบฐานข้อมูลแบบกระจายฐานข้อมูลหลายฐานจะเพิ่มความซับซ้อนในกระบวนการสำรองข้อมูล

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561

กรณีศึกษา บทที่ 3.3



บทที่ 3.3 โครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีสารสนเทศ
Case study เรื่อง MONITORING EMPLOYEES ON NETWORKS: UNETHICAL OR GOOD
1. ผู้จัดการควรตรวจสอบอีเมลพนักงานและการใช้อินเทอร์เน็ตของพนักงานหรือไม่เพราะเหตุใด?
=              ควร เพราะ ผู้จัดการสามารถตรวจสอบอีเมลและการใช้งานอินเทอร์เน็ตของพนักงาน เนื่องจากการวิจัยพบว่าประมาณ พนักงานที่มีบัญชี Facebook มักใช้งานในช่วงเวลาทำงาน นอกจากนี้โดยเฉลี่ยของพนักงานมักเรียกดูเว็บในที่ทำงาน และรับหรือส่งอีเมลส่วนบุคคลในที่ทำงานทั้งหมดนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อบริษัท ซึ่งได้แก่ :
                1.สร้างปัญหาทางธุรกิจที่ร้ายแรง
                2.การหยุดชะงักการทำงานที่ได้รับผิดชอบ
                3.ผู้จัดการต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเวลาและการทำงานของพนักงาน เมื่อพนักงานมุ่งเน้นเรื่องส่วนตัวมากกว่าธุรกิจของ บริษัท
                4.การใช้เวลาส่วนตัวมากเกินไปในที่ทำงานจะทำให้เสียรายได้
                5.พนักงานสามารถส่งอีเมลบริษัท ที่เป็นความลับหรือไม่เหมาะสมให้กับบุคคลภายนอก

2. อธิบายนโยบายอีเมลและการใช้เว็บที่มีประสิทธิภาพสำหรับคำตอบของบริษัท
=              อีเมลและนโยบายการใช้เว็บที่มีประสิทธิภาพสามารถระบุขั้นตอนและความรับผิดชอบที่เฉพาะเจาะจงโดยระบุว่าผู้ใช้และหน่วยงานใดสามารถแบ่งปันข้อมูลที่สามารถแจกจ่ายข้อมูลและใครรับผิดชอบในการอัปเดตและรักษาข้อมูลได้ บริษัท สามารถใช้ซอฟต์แวร์จาก Spector Soft Corporation ซึ่งจะบันทึกการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของพนักงานทุกคนใช้เวลาในแต่ละไซต์และส่งอีเมลทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัท ยังสามารถใช้ซอฟต์แวร์การตรวจสอบอีเมลเพื่อระบุข้อความและคำหลักบางประเภทภายในข้อความเพื่อการตรวจสอบต่อไปนโยบายการใช้งานของ บริษัท ซึ่งรวมถึงกฎพื้นฐานที่ชัดเจนซึ่งระบุตำแหน่งหรือระดับภายใต้สถานการณ์ที่พนักงานสามารถใช้สิ่งที่เป็นมิตรกับองค์กรอีเมลการบล็อกหรือการท่องเว็บ

3. ผู้จัดการควรแจ้งให้พนักงานทราบถึงการตรวจสอบพฤติกรรมการใช้งานเว็บของพนักงานอยู่หรือไม่หรือผู้จัดการควรตรวจสอบอย่างเป็นความลับเพราะเหตุใด?
=              ผู้จัดการควรแจ้งให้พนักงานทราบว่ามีการตรวจสอบการใช้งานเว็บของตน นี้เป็นเพราะ:
                1.เพื่อหลีกเลี่ยงให้พนักงานทำเรื่องส่วนตัวในเวลาทำงาน
                2.ทำให้พนักงานสมาธิในระหว่างชั่วโมงการทำงาน 
                3.เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของบริษัท
                4.การตรวจสอบอาจช่วยระบุรายชื่อผู้ใช้ที่ใช้งานเว็บนอกเหนือการทำงาน

วันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2561

กรณีศึกษา Starbucks



 กรณีศึกษา : วิธีการที่ STARBUCKS ใช้ในการปรับเปลี่ยนเป็นองค์กรดิจิทัลและสังคม
ให้นักศึกษา วิเคราะห์กรณีศึกษา และตอบคําถามต่อไปนี้
1. ปัญหาของ Starbucks คืออะไร เหตุใด Starbucks จึงเลือกแนวทางของเครือข่ายดิจิทัลและสังคม มา แก้ปัญหาของธุรกิจที่เกิดขึ้น
=              ปัญหาผลการดำเนินงานของ Starbucks เกิดขึ้นในปี 2007 ปัญหาโดยตรงคือ รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทลดลงอย่างมาก จากมากกว่า 1 พันล้านเหรียญในปี 2550 เป็น 504 ล้านเหรียญในปี 2008 และ 560 ล้านเหรียญในปี 2009 การลดลงนี้เกิดจากการที่เศรษฐกิจไม่เพียงแต่ชะลอตัว แต่ยังเพิ่มขึ้นจากการแข่งขันของคู่แข่ง เช่น Green Coffee Mountain Roasters ซึ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นแม้ในระหว่างภาวะถดถอย กาแฟชั้นดีและบริการที่ดีเยี่ยมช่วยให้บริษัทในระยะสั้นเท่านั้น แต่ทางออกที่ดีกว่าในระยะยาว คือความจำเป็นที่ Starbucks จะต้องตระหนักถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าของตน บริษัทจึงตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล  และมีการใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ ทำให้การซื้อขายสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ลูกค้าในระดับบุคคลหรือบริษัทสามารถกําหนดการจัดส่งสินค้าตามมาตรฐานของร้านและกรณีที่เป็นรายการพิเศษ เช่น ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่หายากและกาแฟชั้นเยี่ยมที่มีเฉพาะร้านค้าบางแห่งในสหรัฐอเมริกา
                ปัจจุบันลูกค้าทั่วโลกได้รับความเพลิดเพลินกับประสบการณ์นี้มาก รวมทั้งลูกค้าออนไลน์ยังได้รับโปรโมชั่นพิเศษจากการซื้อผลิตภัณฑ์ในร้านค้าออนไลน์อีกด้วย โครงการเครือข่ายดิจิทัลและสังคมดังกล่าว Starbucks สามารถการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลบนพื้นฐานการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ตลอดเวลา และสามารถประยุกต์ใช้กับการดําเนินงานทางกายภาพได้อย่างเหมาะสม จนประสบความสําเร็จและมีประสิทธิภาพ แนวทางความสําเร็จของการขับเคลื่อนเครือข่ายดิจิทัลและสังคมของ Starbucks ในครั้งนี้จะเป็นแนวทางผลักดันความพยายามใช้สื่อสังคมออนไลน์กับธุรกิจต่างๆ

2. อธิบายว่าการปรับเปลี่ยนการดําเนินงานของร้านค้า Starbucks ในรูปแบบเดิม มาริเริ่มโครงการพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร
=              การใช้ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ในธุรกิจนี้ในความเป็นจริงแล้ว Starbucks กําลังเปลี่ยนตัวเองเป็นธุรกิจดิจิทัลและสังคม เป็นเวลานานที่ Starbucks เป็นที่รู้จักและดึงดูดความสนใจจากวัยรุ่น เนื่องจากมีการให้บริการ WiFi ฟรี ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในร้านค้าทั้งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทก็ได้เริ่มดำเนินการริเริ่มระบบดิจิทัลอีกหลายรูปแบบ เพื่อให้การเป็นองค์กรดิจิทัลและสังคมเกิดความเป็นจริงขึ้น



3. วิเคราะห์โครงการสื่อสังคมออนไลน์ ของ Starbucks ที่ได้ดําเนินการไปแล้ว เช่น Website, Facebook, Twitter, Google+, Youtube, Flickr, และ Instagram เป็นต้น ว่ามีจุดเด่น และจุดด้อยอะไรบ้าง และนําเสนอสิ่งที่ควร ปรับปรุงแก้ไขบนสื่อเหล่านั้น
•กิจกรรมของ starbucks บน facebook
                ข้อดี        ใช้แจ้งข่าวสาร ประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้ร่วมสนุก และโปรโมชั่นต่าง  ๆ เพื่อสร้างจุดสนใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยการโพสและอัปโหลดภาพ วิดีโอ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ใช้เฟสบุ๊คได้รับทราบ และเปิดให้แชร์อย่างสาธารณะโดยไม่มีข้อกำหนดใดๆ เพื่อกระจายข่าวสารโดยทั่วกัน
                ข้อด้อย    ทำให้มีคนแฝงตัวของขบวนการหลอกลวงต่าง ๆ ได้
                วิธีการแก้ไข สร้างระบบความปลอดภัยให้กับเพจมากขึ้น

•กิจกรรมของ starbucks ใน Linkedln บน Google+
                ข้อดี
1.การเข้าร่วม linkedin และ google +ของสตารฟ์บัคส์ ใช้เป็นที่สำหรับแสดงข้อมูลของธุรกิจเกี่ยวกับประวัติบริษัท โฆษนาประชาสัมพันธ์การรับสมัครพนักงาน
2.Linkedin ขยายโอกาสในการเผยแพร่ content สามารถสร้างคอมเทนต์ดี ๆ เกี่ยวกับสตาร์บัคส์ ทำใหเพิ่มความหน้าเชื่อถือและเพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ต้องการเข้าถึงได้มากขึ้น
3.เว็บไซต์ของสตาร์บัคส์ การทำ google + เป็นทางเลือกที่จะช่วยเชื่อมต่อผู้คนใน google+ ให้เข้าเว็บไซต์ของสตาร์บัคส์ได้ง่ายขึ้น
                ข้อด้อย
1.Linkedin บน google + ของสตาร์บัคส์ ทำให้เสียเวลาเข้ามาดูแล ในขณะที่ Facebook และ twitter ต่างช่วยอัป status เขียนบล๊อคโพสต์ขึ้นได้รวดเร็ว ในขณะที่ google + ต้องมาอัปเดต
2.อัตราการเติบโตของ linkedin บน google + ช้าการเข้าถึงเข้าได้ยาก และมีคนส่วนน้อยที่ต้องการเข้าถึง
                วิธีแก้ไข LinkedIn และ Google+ สมัยนี้ไม่นิยมใช้กันมากนักเนื่องจากมีแอปพลิเคชั่นที่ทันสมัยกว่าและใช้งานได้ง่ายกว่า

•กิจกรรมของ starbucks บน Twitter
                ข้อดี         มีการแจ้งข่าวสาร มีการตอบโต้ พูดคุยด้วยการตั้งคำถาม ตอบคำถามลูกค้าและ Retweet ในสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์ตลอดเวลา
                ข้อด้อย    Twitter สามารถพิมพ์ข้อความได้ 140 คำ เพราะฉะนั้นเรื่องบางเรื่องผู้ที่ต้องการบอกกล่าวข้อมูลจึงรู้สึกว่าน้อยเกินไป จนรายละเอียดข้อมูลที่จะบอกไม่ครบถ้วนตามความต้องการ
                วิธีการแก้ไข ใช้เนื้อหาที่กระชับ เข้าใจง่าย

•กิจกรรมของ starbucks บน YouTube, Flickr, และ Instagram
                ข้อดี        ใช้วิดีโอและรูปภาพเพื่อดำเนินการแคมเปญโฆษณา การทำการกุศล รวมถึงประวัติต่าง ๆ เปิดให้แชร์อย่างสาธารณะโดยไม่มีข้อกำหนดใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้แบรนด์เป็นที่น่าสนใจและเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้นจากสื่อ
                ข้อด้อย      การใช้เพียงวิดีโอหรือรูปภาพอาจไม่สื่อความหมายมากหรือได้เนื้อหาสาระเท่ากับเนื้อหาที่ถูกเขียนขึ้นแบบเป็นบทความ
                วิธีแก้ไข ใช้รูปภาพหรือวีดีโอที่สื่อความหมายครอบคลุม เหมาะสมและเข้าใจง่าย
4. อธิบายว่าเครือข่ายดิจิทัลและสังคม ทั้งโครงการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการสื่อสังคมออนไลน์ มี ส่วนช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และความภักดีกับลูกค้าของ Starbucks ได้อย่างไร
=              Starbucks สร้างเครือข่ายดิจิทัล (Starbucks Digital Network) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมแบบดิจิทัลที่ บริษัทเสนอเนื้อหาแบบออนไลน์ โดยใช้เครือข่ายดิจิทัลของStarbucks ในการเป็นหุ้นส่วนกับผู้ให้บริการสื่อรายใหญ่ เช่น นิวยอร์คไทม์ส และiTunes เครือข่ายดิจิทัลถูกออกแบบมาสําหรับทุกคนในอุปกรณ์เคลื่อนที่หลักๆ เช่น แท็บเล็ต (เช่น iPad) และสมาร์ทโฟน คุณลักษณะเนื้อหาของเครือข่ายจะข่าวบันเทิง ธุรกิจ สุขภาพ และข้อมูลท้องถิ่น Starbucks ตระหนักถึงความสําคัญของสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อสนับสนุนสังคม ปฏิสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ดังนั้นจึงเริ่มริเริ่มกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าตามความต้องการของ ลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ผู้บริโภคที่มีการใช้เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ของสตาร์บัคส์ที่ใช้มากที่สุดแตกต่างกันมี ความสัมพันธ์อันดีระหว่างกาแฟสตาร์บัคส์และผู้บริโภคไม่แตกต่างกัน ทั้งนี้เพราะกาแฟสตาร์บัคส์ได้ ทําการตลาดและการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในหลากหลายช่องทางทั้งทาง Facebook, Twitter, Youtube, Blog และอื่น ๆ ซึ่งสื่อสังคมออนไลน์ที่สตาร์บัคส์ใช้ทั้งหมดนั้นมี เป้าหมายที่ไม่แตกต่างกันนั่นคือการแจ้งข่าวสารต่างๆถึงผู้บริโภคการแบ่งปั้นประสบการณ์ร่วมกัน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสตาร์บัคส์และผู้บริโภคให้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ อรวรรณ วงศ์แก้วโพธิ์ทอง (2553, น. 66-68) ที่กล่าวว่า การใช้ Social media ในการสร้าง ความสัมพันธ์กับลูกค้า ธุรกิจสามารถใช้ Social media หลายประเภทเพื่อติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทั้งที่ เป็นลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า เรียนรู้ความต้องการที่ แตกต่างกันของลูกค้า และตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมกับ ลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การรับฟังความคิดเห็นที่มีต่อธุรกิจ ตราสินค้าหรือผลิตภัณฑ์และการตอบคําถามที่จะมีเข้ามาอย่างไม่คาดคิดอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังใช้ เป็นช่องทางให้บริการลูกค้าหรือขอบคุณลูกค้าที่ติชมเข้ามา เช่น สตาร์บัคส์ใช้ Facebook Fan Page ในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องและได้มีการปรับปรุงแก้ไขตลอดเวลา เพื่อบอกถึง รายการส่งเสริมการขายและเมนูใหม่ที่มีนอกจากนี้สตาร์บัคส์ยังใช้ YouTube ในการอัปโหลด ภาพยนตร์โฆษณาทุกชิ้นของสตาร์บัคส์และเรื่องราวเกี่ยวกับกาแฟและงานการกุศลที่จัดขึ้นเพื่อให้ ลูกค้าได้เข้ามาชมเป็นต้น

=              จากการวิเคราะห์ปัจจัยสู่ความสำเร็จในการนำเครือข่ายดิจิทัลและสังคม มาใช้ในการดำเนินงานของ Starbucks ประกอบด้วยปัจจัยดังนี้
1.บริษัทได้แต่งตั้งผู้บริหารอาวุโสในตำแหน่ง Chief Digital Officer เพื่อดูแลกิจกรรมด้านดิจิทัล
2.มีการสร้างกลุ่มผู้ร่วมทุนด้านดิจิทัล เพื่อดำเนินการด้านเทคนิคและริเริ่มการนำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้
3.มีกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
4.มีการจัดโปรโมชั่นไฮไลต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
5. มีการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลบนพื้นฐานการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต
6. มีการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์บนสื่อสังคมออนไลน์